Select Products

SKF SPEEDI-SLEEVE
ปลอกซ่อมเพลา

Speedi-Sleeve สปีดี้สลีพ

Speedi-Sleeve สปีดี้สลีพ
อีกทางเลือกหนึ่งที่ใช้สำหรับการช่วยเพลาที่สึกหรอ สะดวก รวดเร็วกว่า และประหยัดกว่าในการซ่อมเพลา
เพื่อการซีลและการป้องกันฝุ่นอย่างมีประสิทธิภาพ ซีลเพลาแบบแนวรัศมี (radial shaft seal) ควรจะต้องใช้งานร่วมกันกับเพลาที่มีความเรียบกลม โดยเฉพาะตรงตำแหน่งของขอบซีล หากซีลมีการสึกหรอและโดยทั่วไปมักจะเกิดขึ้นเสมอเมื่อใช้งานซีลไปได้ระยะหนึ่ง ผลที่ตามมาคือซีลจะไม่สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้ นั่นคือการเก็บกักจาระบีไว้ภายในและการป้องกันฝุ่นหรือสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป โดยปกติ ผิวหน้าของซีลมักจะเกิดเป็นร่อง เนื่องจากสิ่งสกปรกมีการจับตัวด้านล่างของซีลลิป(seal lip) และจะเกิดการขัดถูเป็นร่องเมื่อเพลามีการหมุนอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดสิ่งสกปรกจะหลุดลอดผ่านเข้ามาภายในหรือติดอยู่ภายในซีลมากขึ้น และมีผลให้ประสิทธิภาพของซีลเสื่อมลง จนในที่สุดทำให้ส่วนประกอบของเครื่องจักรที่ซีลนั้นต้องทำการปกป้องเกิดการทำงานผิดปกติ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ จึงมีความจำเป็นต้องทำการซ่อมเพลาในบริเวณของขอบซีล การเปลี่ยนซีลใหม่จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ในการซ่อมเพลา ปกติจำเป็นที่จะต้องมีการถอดรื้อเครื่องจักรเพื่อที่จะให้สามารถจับยึดเพลาหลังจากนั้นต้องทำการล้างกลึงผิวเพลาจนกระทั่งผิวเพลามีความเรียบเช่นเดิม และหากร่องที่เกิดจากการสึกหรอมีความลึกมาก ซีลขนาดเดิมที่ใช้อยู่อาจมีขนาดไม่เหมาะสมอีกต่อไป ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องหาซีลที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กลงมาทดแทน แต่ปัจจุบัน มีวิธีการที่ง่ายในการซ่อมผิวเพลาบริเวณขอบซีล โดยที่เพลายังคงมีขนาดเท่าเดิม โดยไม่ต้องหาซีลขนาดใหม่มาใช้ทดแทน คำตอบคือ SPEEDI-SLEEVE® จาก SKF

SPEEDI-SLEEVE®-ทำงานอย่างไร
ปลอก SPEEDI-SLEEVE® มีความหนาของผิวหน้าตัดที่บางมาก (0.28 มม.) เพื่อให้สามารถใช้ซีลขนาดเดิมได้ SPEEDI-SLEEVE® ผลิตขึ้นมาจากวัสดุเหล็กเสตนเลสคุณภาพสูงตามมาตรฐาน SAE 304 ผิวหน้ามีความต้านทานต่อการสึกหรอสูงและได้รับการไสกลึงโดยปราศจากการควบคุม ทิศทาง เพื่อให้ผิวสำเร็จมีความเรียบสูง Ra = 0.25 ถึง 0.5 ไมครอน (โดยขึ้นอยู่กับขนาด) ดังนั้นจะเห็นได้ว่าผิวหน้าของ SPEEDI-SLEEVE® ให้ผิวหน้าสัมผัสที่ดีกว่าที่จะได้รับจากผิวเพลาโดยทั่วไป โดยเฉพาะหากมีการเพิ่มวีริง (V-ring) ด้านนอกเสริมหรือเพิ่มเติมในระบบการติดตั้งซีลกันฝุ่น จะช่วยลดโอกาสที่สิ่งสกปรกจะเข้าถึงซีลหลักและก่อให้เกิดการสึกหรอได้มาก ขนาดมาตรฐานที่มีผลิตในปัจจุบันคือขนาดตั้งแต่ 12 ถึง 200 มม. นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้กับเพลาขนาดเป็นนิ้ว

SPEEDI-SLEEVE® GOLD

SPEEDI-SLEEVE® GOLD - ทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับลักษณะการใช้งานที่ต้องการความทนทานสูง
นี่คือพัฒนาการล่าสุดและคงไว้ซึ่งประโยชน์และจุดเด่นทั้งหมดของ SPEEDI-SLEEVE® แบบดั้งเดิม SPEEDI-SLEEVE® GOLD มีความบางของผิวหน้าตัดเทียบเท่ากับปลอกมาตรฐาน แต่มีผิวหน้าที่มีความแข็งอยู่ระหว่าง 80 และ 85 HRC ซึ่งมีความแข็งสูงกว่าปลอกมาตรฐานทั่วไป ผิวหน้าของ SPEEDI-SLEEVE® GOLD มีความต้านทานต่อการสึกหรออย่างมาก โดยมีระดับความแข็งเกือบเทียบเท่ากับการเคลือบผิวหน้าด้วยเพชร การติดตั้งยังคงทำได้ง่ายดาย โดยมีเครื่องมือติดตั้งจัดส่งพร้อมไปกับ SPEEDI-SLEEVE® GOLD ด้วย ด้วยผิวหน้าที่มีความแข็งมากกว่า (80 ถึง 85 HRC) และมีความต้านทานต่อการสึกหรอมากกว่า SPEEDI-SLEEVE® GOLD จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับลักษณะการใช้งานที่ต้องการความทนทานสูง

ผลการทดสอบ
SPEEDI-SLEEVE® GOLD ได้ผ่านการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าปลอกมีความสามารถต้านทานต่อการสึกหรอในสภาพ แวดล้อมที่มีฝุ่นผงมาก โดยมีการใช้ทั้งทรายแบบหยาบและทรายแบบละเอียดในการทดสอบ การทดสอบถูกกระทำที่อุณหภูมิสูงสุดถึง 100oC และที่เพลาหมุนด้วยความเร็วสูงสุดถึง8.6m/s ภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว ซีลที่ติดตั้งอยู่บนเพลาโดยปราศจาก SPEEDI-SLEEVE® ป้องกัน จะเริ่มมีการรั่วซึมหลังผ่านการทดสอบไป 450 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย สำหรับซีลที่ติดตั้งบน SPEEDI-SLEEVE® GOLD สามารถใช้งานโดยเฉลี่ยถึง 2,500 ชม. ในการทดสอบภายใต้เงื่อนไขอื่นๆ ตัวอย่างเช่น การทดสอบโดยใช้สเปรย์น้ำเกลือฉีดพ่นอย่างต่อเนื่อง ณ อุณหภูมิ 40oC พบว่าไม่มีการเกิดสนิมของปลอกบริเวณขอบซีลจนกระทั่งถึง 600 ชม.การทำงาน ขณะนี้ มีการผลิต SPEEDI-SLEEVE® GOLD ประมาณ 50 ขนาด ซึ่งครอบคลุมขนาดเพลาที่มีการใช้งานอยู่โดยทั่วไป นอกจากนั้นยังสามารถเลือกใช้ได้กับเพลาขนาดเป็นนิ้ว



การติดตั้ง SPEEDI-SLEEVE

แม้ว่าการติดตั้งจะทำได้อย่าง่ายดาย แต่ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากผิวของ SPEEDI-SLEEVE มีความบางมากและจะสัมผัสแน่นที่เพลา จึงควรทำความสะอาดเพลาก่อนติดตั้งทุกครั้ง สำหรับเพลาที่มีรอยสึกลึกมาก ควรทาอีพ็อกซี่ชนิดที่ผสมเหล็กบริเวณรอยสึกก่อนการติดตั้ง SPEEDI-SLEEVE

การถอด SPEEDI-SLEEVE
SPEEDI-SLEEVE สามารถถอดได้โดยใช้ความร้อนเป่าแล้วดึงออกมา หรือใช้ของมีคมทำให้เกิดรอยปริและดึงออก
สำหรับการถอดที่มีอีพ็อกซี่เคลื่อบให้ใช้ความร้อนเป่า จะช่วยให้ถอดออกง่ายขึ้น SPEEDI-SLEEVE ที่ถูกถอดออกแล้ว ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

การเลือกขนาดที่เหมาะสม
ในการเลือกขนาด SPEEDI-SLEEVE ให้เหมาะสมกับเพลา ต้องวัดขนาดเพลาที่ยังไม่เสียหายรอบๆ รอยลึก และเทียบขนาดจากตาราง โดยค่าความเผื่อ d1 min ถึง max หากไม่พบขนาด SPEEDI-SLEEVE ที่ต้องการ อาจจะเป็นต้องกลึงเพลาเพื่อให้ได้ตามขนาดที่ผลืด หากต้องการใช้งานในปริมาณมาก สามารถผลิตตามความต้องการพิเศษได้

ขั้นตอนการติดตั้ง

ขั้นตอนการติดตั้ง

  1. ทำความสะอากเพลาบริเวณที่จะติดตั้งซีล
  2. วัดขนาดเพลาที่จะนำ SPEEDI-SLEEVE ไปติดตั้ง โดยให้วัด 3 จุดรอบๆ รอยสึก ตามรูป 1 แล้วคำนวณหาค่าเฉลี่ย จากนั้นเทียบขนาด SPEEDI-SLEEVE โดยค่าเฉลี่ย จากนั้นเทียบขนาด SPEEDI-SLEEVE โดยค่าที่เลือกต้องอยู่ระหว่างค่าความเผื่อ d1 min และ max เพื่อให้ SPEEDI-SLEEVE แน่นพอดีที่เพลา
  3. หากบริเวณที่จะติดตั้งมีรอยที่ลึกมาก ให้ทาอีพ็อกชี่ชนิดผสมผลเหล็ก (Loctite Quickmetal) บริเวณสึกก่อน
  4. นำด้านปีกของ SPEEDI-SLEEVE ประกบลงที่เพลา
  5. ใส่ฝาส่งครอบลงจนสุดปีกของ SPEEDI-SLEEVE ตามรูป 2 จากนั้นค่อยใช้ค้อนขางตอกฝาส่งเพื่อดันให้ SPEEDI-SLEEVE ไปอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
  6. หากรอยสึกอยู่ลึกเกินกว่าความหนาของฝาส่งให้ใช้ท่อ หรือชุดตืดตั้งตลับลูกปืนช่วยส่ง SPEEDI-SLEEVE
  7. ลอกปีกของ SPEEDI-SLEEVE โดยตัดปีกให้เป็นรอย และค่อยๆ ลอกออกตามรอยบ่า
  8. เคลือบสารหล่อลื่นที่ผิวนอก SPEEDI-SLEEVE
  9. ติดตั้งซีลให้นั่งบน SPEEDI-SLEEVE โดยไม่ต้อเปลี่ยนขนาดซีล

วิธีประกอบ Speedi Sleeve

วิธีประกอบ Speedi Sleeve

ค่อยๆเอาขอบข้างออก

ค่อยๆ เอาขอบข้างออก

สามารถใส่ซีลขนาดเดิมได้เลย

สามารถใส่ซีลขนาดเดิมได้เลย

วิธีถอด Speedi Sleeve

วิธีถอด Speedi Sleeve
Other options: Ball peen hammer,ใช้ความร้อน

SKF SPEEDI-SLEEVE

รูปนี้มีอะไรผิดปกติมั้ย

มาตรฐานทั่วไปของ Speedi Sleeve
Speedi Sleeve Standard

  • หนาเพียง 0.28 (0.11")
  • ทำจาก Stainless Steel Alloy
  • เบอร์ Sliver ความแข็งอยู่ที่ 30-35 HRC รุ่น  Gold ความแข็ง อยู่ที่ 85 HRC
  • Size Range 12 to 200 mm (0.472"-8.000")


ประโยชน์ที่ได้รับ

  • ลดเวลาซ่อมเพลา
  • ค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการเสียทำเพลาใหม่
  • ไม่ต้องเปลี่ยนขนาดซีล

Product Table